…………………………………………………………….
(ข้อกำหนดนี้แก้ไขล่าสุด 31 มกราคม 2562)
ข้อกำหนดในการให้บริการระหว่างท่านกับบริษัท ไบต์อาร์ค จำกัด
ข้อกำหนดตามเอกสารฉบับนี้ เป็นข้อกำหนดระหว่าง บริษัท ไบต์อาร์ค จำกัด สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 3 อาคารพร้อมพันธุ์ 3 ชั้น 16 ห้อง 1608-1609 ซอยลาดพร้าว 3 ถนนลาดพร้าว แขวงจอมพล จตุจักร กรุงเทพ 10900 ซึ่งต่อไปในเอกสารฉบับนี้จะเรียกว่า “บริษัท” และ “ผู้ใช้บริการ” ซึ่งหมายถึงบุคคลหรือองค์กรที่มีบัญชีผู้ใช้ในบริการใด ๆ ของบริษัท รวมถึงบุคคลหรือองค์กรผู้พัฒนา และ/หรือ ดูแลระบบซึ่งเชื่อมต่อกับบริการใด ๆ ของบริษั
การเปิดใช้บริการใด ๆ ของบริษัท ย่อมก่อให้เกิดความผูกพันและสัญญาตามกฎหมาย ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขต่าง ๆ ตามเอกสารนี้ทั้งหมด
การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดการใช้บริการไบต์อาร์ค
ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการระบบไบต์อาร์คฉบับนี้ มีการแก้ไขล่าสุดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2560 โดยบริษัทอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดในการใช้บริการฉบับนี้ได้ โดยบริษัทอาจแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบโดยทั่วกันผ่านทางอีเมลบัญชีผู้ใช้บริการ ที่ได้ลงทะเบียนไว้ หรือผ่านอินเตอร์เฟซหน้าเว็บไซต์ หรืออาจแจ้งแก่ผู้ใช้บริการโดยตรง ในกรณีที่ผู้ใช้บริการยังคงใช้บริการของบริษัทต่อไปหลังจากที่บริษัทได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดในการใช้บริการฉบับนี้ จะถือว่าผู้ใช้บริการเห็นชอบข้อกำหนดในการใช้บริการของบริษัท ตามฉบับที่ได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงแล้วนั้น
ข้อกำหนดเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้
ผู้ใช้บริการจำเป็นต้องมีบัญชี ไบต์อาร์ค เพื่อที่จะใช้บริการของบริษัท โดยผู้ใช้บริการสามารถสร้างบัญชี ไบต์อาร์ค ด้วยตัวเองผ่านเว็บไซต์ หรืออาจได้รับมอบบัญชีผู้ใช้ ไบต์อาร์ค จากทีมงานของบริษัทที่เปิดบริการและตั้งค่าบริการเบื้องต้นให้แก่ผู้ใช้บริการ
การสร้างบัญชี ByteArk โดยผู้ใช้บริการด้วยตัวเองเอง ทางบริษัทมีสิทธิ์ในการประเมินการให้บริการบัญชีนั้น ในกรณีที่ทางบริษัทพิจารณาว่าลูกค้ามีลักษณะใด ๆ ดังต่อไปนี้ บริษัท อาจปฏิเสธคำขอใช้บริการที่ผู้ใช้บริการได้สมัครไว้
- ผู้ใช้บริการให้ข้อมูลเท็จหรือให้ข้อมูลในลักษณะก่อกวนในคำขอสมัครใช้บริการ
- ผู้ใช้บริการไม่ผ่านหลักเกณฑ์การประเมินของบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ การที่ลูกค้าเคยติดค้างชำระกับทางบริษัท การที่ลูกค้าเคยชำระเงินให้แก่บริษัทล่าช้า หรือความสามารถของลูกค้าในการชำระค่าบริการใดๆ ทั้งนี้บริษัทไม่มีหน้าที่ต้องเปิดเผยหลักเกณฑ์ในการประเมินของบริษัท
- กรณีอื่นๆ ที่ทางบริษัทได้มีการตรวจสอบถึงการสมัครใช้บริการของบริษัทอย่างไม่เหมาะสม
ผู้ใช้บริการจำเป็นต้องใช้บัญชีผู้ใช้ในการใช้และปรับ/ตั้งค่า บริการต่าง ๆ โดยผู้ใช้บริการมีหน้าที่ต้องเก็บรักษารหัสผ่านการเข้าใช้งานบัญชีไว้เป็นความลับ เพื่อปกป้องการแอบอ้างเข้าใช้งานบัญชี ผู้ใช้บริการมีความรับผิดชอบต่อกิจกรรมที่เกิดขึ้นบนหรือผ่านบัญชี ByteArk ของผู้ใช้บริการ โดยบริษัทจะไม่รับผิดชอบใด ๆ หากบัญชีของผู้ใช้บริการถูกนำไปใช้เพื่อกระทำอย่างหนึ่งอย่างใด โดยให้ถือว่าการใช้บริการนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของผู้ใช้บริการ (รายละเอียดเพิ่มเติมในหัวข้อ “การปฏิเสธความรับผิดชอบ”)
ทั้งนี้ หากผู้ใช้บริการร้องขอ บริษัทหรือทีมงานของบริษัทอาจดำเนินการใด ๆ แก่ผู้ใช้บริการ ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีของผู้ใช้บริการภายในขอบเขตที่เหมาะสมและจำเป็นเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ใช้บริการ
ข้อกำหนดเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์
บริการของไบต์อาร์คบางอย่างอนุญาตให้ผู้ใช้บริการสามารถอัปโหลด ส่งเนื้อหามาให้ จัดเก็บ ส่งหรือรับเนื้อหาได้ ผู้ใช้บริการยังคงความเป็นเจ้าของสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาใด ๆ ที่ถือสิทธิ์ในเนื้อหานั้น ๆ
เจ้าของสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาใด ๆ ของเนื้อหาใด ๆ ยังคงเป็นของเจ้าของสิทธิ์เดิม กล่าวคือ บริษัทไม่มีสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาใด ๆ กับเนื้อหาที่ผู้ใช้บริการนำมาจัดเก็บ และ/หรือส่งต่อผ่านบริการของบริษัททั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม การใช้บริการของบริษัท บริษัทถือว่าผู้ใช้บริการอนุญาตหรือได้รับสิทธิ์อนุญาตอย่างถูกต้องจากเจ้าของสิทธิ์ ให้บริษัทเผยแพร่ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข เนื้อหาที่ผู้ใช้บริการนำมาจัดเก็บ และ/หรือส่งต่อผ่านบริการของบริษัทได้ หากกระบวนการนั้นจำเป็นต่อการดำเนินงานตามที่ผู้ใช้บริการต้องการ (รายละเอียดเพิ่มเติมในหัวข้อ “การปฏิเสธความรับผิดชอบ”)
การใช้บริการใด ๆ ของบริษัท มิได้หมายความว่าผู้ใช้บริการจะได้เป็นเจ้าของบริการ หรือทรัพย์สินทางปัญญาใด ๆ ของทางบริษัท เช่น ซอฟท์แวร์ การแก้ไขหรือปรับแต่งซอฟท์แวร์ โลโก้ ชื่อแบรนด์ต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้บริษัท
บริษัทตอบรับต่อการแจ้งข้อมูลที่เกี่ยวกับการกล่าวหาการละเมิดลิขสิทธิ์ โดยบริษัทจะพิจารณาถึงความเป็นไปได้และจะระงับบัญชีของผู้ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ซ้ำโดยดำเนินการภายใต้เงื่อนไขของพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550, มาตรา 20 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ 2560, หรือกฎหมายอื่น ๆ ภายใต้ราชอาณาจักรไทย
หากคุณเป็นเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา (“เจ้าของ IPR”) หรือตัวแทนที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจากเจ้าของ IPR (“ตัวแทน IPR”) และคุณเชื่อว่าสิทธิของคุณหรือสิทธิตัวการของคุณได้ถูกละเมิด โปรดทำหนังสือแจ้งให้บริษัททราบเป็นลายลักษณ์อักษรโดยส่งทางอีเมลมาที่ support@byteark.com และส่งเอกสารรายละเอียดเกี่ยวกับสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาดังกล่าว เพื่อสนับสนุนการเรียกร้องสิทธิของคุณ และบริษัทจะตอบข้อร้องเรียนของคุณโดยเร็วที่สุดเท่าที่สามารถดำเนินการได้
ข้อจำกัดการใช้
เว็บไซต์และบริการของ “ไบต์อาร์ค” ทั้งหมด เช่น ข้อมูล ภาพ กราฟฟิกส์ ไลบรารี่โค้ด SDK และส่วนประกอบอื่นๆ บนเว็บไซต์ (ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า”เนื้อหา”) ได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์และเป็นเจ้าของหรือควบคุมโดย บริษัท ไบต์อาร์ค จำกัด นอกจากจะมีการระบุเป็นอย่างอื่น การนำเนื้อหาเหล่านี้ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตอาจละเมิดกฎหมายเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ กฎหมายเครื่องหมายการค้า และกฎหมายอื่นๆ รวมทั้งสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทหรือบุคคลที่สามได้ การใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตอาจนำไปสู่การเรียกค่าเสียหาย และ/หรือ เป็นความผิดทางอาญา เนื้อหาแต่ละส่วนอาจจะมีสิทธิ์อนุญาตการใช้ที่แตกต่างกัน ผู้ใช้บริการต้องทำความเข้าใจและยอมรับเงื่อนไขและข้อจำกัดการใช้งานส่วนต่างๆ การกระทำการใดๆ ที่อยู่นอกเหนือข้อจำกัดดังกล่าว โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัทก่อน ถือเป็นความผิด และบริษัทสามารถดำเนินการตามกฎหมายได้
ซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์ใดๆ ที่เราจัดไว้ให้ผู้ใช้บริการเป็นส่วนหนึ่งของบริการนี้ อยู่ภายใต้ข้อกำหนดของเงื่อนไขการใช้บริการนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดต่อซอฟต์แวร์ที่พัฒนาโดยบุคคลภายนอก ที่มีการเชื่อมโยง เชื่อมต่อ หรืออ้างถึงบริการของบริษัท ถือว่าซอฟต์แวร์เหล่านั้นเป็นความรับผิดชอบของบุคคลภายนอก (3rd Party) และไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทโดยตรง
ข้อกำหนดเกี่ยวกับการชำระเงิน
บริษัทได้สนับสนุนการชำระเงินให้แก่บริษัทผ่านช่องทาง ดังต่อไปนี้
- บัตรเครดิต : การชำระเงินผ่านบัตรเครดิตจะดำเนินการผ่านช่องทางการชำระเงินของบุคลภายนอก อันได้แก่ บริษัท โอมิเซะ จำกัด (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “โอมิเซะ”) ซึ่งผู้ใช้บริการจะต้องใช้บริการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านระบบของ โอมิเซะ อันเป็นไปตามข้อตกลง เงื่อนไข และนโยบายการใช้งานที่ โอมิเซะ เป็นผู้กำหนดขึ้น ทั้งนี้ ในการใช้งานระบบ โอมิเซะ ดังกล่าว ด้วยข้อกำหนดการใช้งานหรือบริการนี้ ให้ถือว่าคุณยอมรับบรรดาข้อกำหนด เงื่อนไขและนโยบายต่างๆ ที่กำหนดขึ้นโดย โอมิเซะ และถือว่าคุณได้ให้ความยินยอมแก่เราเพื่อถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่อยู่ในความครอบครองของเราให้แก่ โอมิเซะ เพื่อดำเนินการทำรายการดังกล่าว
- การโอนเงิน : ผู้ใช้บริการสามารถชำระค่าบริการผ่านธนาคารไปยังบัญชีของบริษัทที่เรากำหนดและตกลงไว้ล่วงหน้ากับผู้ใช้บริการ โดยผู้ใช้บริการจะต้องส่งหลักฐานการโอนเงินหรือหมายเลขอ้างอิงการทำรายการชำระเงินให้กับบริษัท เพื่อเป็นการยืนยันความถูกต้อง หากไม่มีการแจ้งยืนยันการชำระเงินดังกล่าว ภายในระยะเวลา 30 วัน ทางบริษัทจะถือว่าการทำธุรกรรมดังกล่าวถูกยกเลิก
บริษัทไม่รับผิดชอบและจะไม่ยอมรับผิดใดๆ ต่อความสูญเสียหรือความเสียหายแก่ผู้ใช้บริการอันเกิดจากข้อมูลการจัดส่งและ/หรือข้อมูลการชำระเงินที่ผู้ใช้บริการป้อนไว้ หรือการที่ผู้ใช้บริการโอนเงินค่าชำระค่าบริการที่ไม่ถูกต้อง เราสงวนสิทธิ์ในการตรวจสอบความถูกต้องในวิธีการชำระเงิน และอาจระงับธุรกรรมไว้จนกว่าจะได้ยืนยันการความถูกต้องแล้ว หรือยกเลิกธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกรณีที่ไม่มีการยืนยันดังกล่าว
ข้อกำหนดเกี่ยวกับการคืนเงิน
บริษัทไม่มีนโยบายการคืนเงินสำหรับการซื้อเครดิตที่ทำรายการเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยการขอเงินคืนจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในกรณีที่ผู้ใช้บริการมีความประสงค์ขอรับเงินคืน ให้ติดต่อทางบริษัทผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อแจ้งความประสงค์รวมถึงเหตุผล พร้อมเอกสารหลักฐานยืนยันการชำระเงิน เพื่อให้บริษัทพิจารณาและจะแจ้งกลับให้ผู้ใช้บริการทราบถึงผลการพิจารณา โดยจะใช้ระยะเวลาพิจารณาภายในระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน คำตัดสินของบริษัทถือเป็นสิ้นสุด
การขอคืนเงินสามารถดำเนินการได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 7 วันหลังจากทำรายการสมบูรณ์แล้วเท่านั้น หากพ้นระยะเวลาดังกล่าว ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธการขอคืนเงินใดๆ
การคืนเงินนั้นจะใช้ช่องทางเดียวกับที่ผู้ใช้บริการชำระเงินเข้ามา
- หากชำระด้วยบัตรเครดิตจะคืนวงเงินเข้าบัตรเครดิตภายในระยะเวลา 15-30 วัน (ตามข้อกำหนดกระบวนการของ โอมิเซะ)
- หากชำระด้วยการโอนเงินจะโอนเงินคืนสู่บัญชีตามที่ผู้ใช้งานได้แจ้งต่อบริษัท ภายในระยะเวลา 7-14 วันหลังจากได้รับการอนุมัติการคืนเงิน ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายในส่วนค่าธรรมเนียมการโอนหรือการทำธุรกรรมใดๆ ผู้ใช้บริการจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด
ข้อกำหนดการรับประกันการให้บริการ
ข้อกำหนดการรับประกันการให้บริการ หรือ Service Level Agreement (SLA) ของบริษัท หมายถึง Uptime Guarantee ของระบบ (ByteArk CDN and Network) โดยทางบริษัทให้สัญญาว่าจะบำรุงรักษาและซ่อมแซมแก้ไขระบบให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดีอยู่เสมอตลอดระยะเวลา เพื่อให้บริการมีอัตราการคงอยู่ของระบบต่อเดือน (Monthly Uptime) 99.5% โดยใน 100% ของ Monthly Uptime ของทางด้าน Computer System/Network นั้นหมายถึง ในระยะเวลา 1 เดือน (คิดที่ 43,200 นาทีต่อเดือน) ในทุกๆ 0.1% ของ Downtime มีค่าเท่ากับ 43.2 นาที ดังนั้น SLA Uptime Guarantee 99.5% หมายถึง ใน 1 เดือน ยอมให้ระบบสามารถเกิด Downtime ได้ 216 นาที หรือประมาณ 3 ชั่วโมง 36 นาที
ทั้งนี้หาก SLA ไม่ถึงเกณฑ์ 99.5% บริษัทจะทำการชดเชยด้วยการให้ส่วนลดกับผู้ใช้บริการในเดือนถัดไปโดยคำนวนตามสัดส่วน % ของ Usage ที่ใช้ ในเดือนที่ระบบมี SLA ไม่ถึงเกณฑ์ โดยกำหนดไว้ตามสัดส่วน ดังนี้
เปอร์เซ็นต์การทำงาน | จำนวนส่วนลดสูงสุด ที่จะชดเชยให้แก่ผู้ใช้บริการ |
น้อยกว่า 99.5% ถึง 99.0% | 10 % ของ Usage ที่ใช้ในเดือนที่เกิดเหตุ |
น้อยกว่า 99.0% ถึง 95.0% | 20 % ของ Usage ที่ใช้ในเดือนที่เกิดเหตุ |
น้อยกว่า 95.0% | 30 % ของ Usage ที่ใช้ในเดือนที่เกิดเหตุ |
เงื่อนไข
- ผู้ใช้บริการจะต้องขอรับเครดิต/ส่วนลดตามที่ระบุข้างต้น โดยต้องแจ้งแก่บริษัททราบภายใน 30 วัน นับจากเวลาที่ลูกค้ามีสิทธิ์รับเครดิต/ส่วนลดบริการ หากไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้จะทำให้ลูกค้าไม่มีสิทธิ์ได้รับเครดิต/ส่วนลดดังกล่าว
- ผู้ใช้บริการจะต้องแจ้งรายละเอียด วันที่ เวลา และระยะเวลารวมในช่วงที่เกิดเหตุ SLA ไม่ถึงเกณฑ์ต่อบริษัท เพื่อให้บริษัทตรวจสอบและพิจารณา หากเข้าเงื่อนไขตาม SLA ที่บริษัทกำหนด บริษัทจะดำเนินการหักส่วนลดตามสัดส่วนที่ได้ตกลงไว้ให้แก่ผู้ใช้บริการในรอบบิลถัดไป
- เครดิต/ส่วนลด จากการชดเชยของบริษัทไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นเงินสดและไม่สามารถเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้
SLA ของบริการไบต์อาร์คจะครอบคลุมเฉพาะในส่วนของการให้บริการที่รับผิดชอบโดยบริษัทเท่านั้น และจะไม่มีผลกับ “สิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุม” ของข้อตกลง หรือปัญหาที่มีสาเหตุเกิดจากอุปกรณ์และระบบใด ๆ ของลูกค้า หรือบุคคลที่สาม หรือทั้งสองอย่าง (ที่ไม่อยู่ในการควบคุมของบริษัท) และจะไม่นับรวมเวลาเนื่องจากสาเหตุดังต่อไปนี้
- Downtime ที่เกิดจากกแผนการบำรุงรักษาระบบ หรือการปรับปรุงระบบ (System Maintenance) ซึ่งจะมีการแจ้งแผนกำหนดเวลาที่แน่นอน โดยจะดำเนินการในช่วงเวลาที่ส่งผลกระทบต่อการใช้งานน้อยที่สุด
- Downtime ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลง อุปกรณ์หรือ Hardware บางส่วนที่เสียดายโดยเร่งด่วน
- Downtime ที่เกิดจากการร้องขอให้ดำเนินการให้ของผู้ใช้บริการ
- Downtime ที่เกิดจากความผิดพลาดของระบบหลักของศูนย์ข้อมูล Data Center หรือ ระบบการสื่อสารของประเทศ
การปฏิเสธความรับผิดในบริการของเรา
บริษัท และคู่ค้า และตัวแทนจำหน่ายของบริษัท จะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อการสูญเสียผลกำไร รายได้ หรือข้อมูล ยอดขาดทุนทางการเงิน หรือความเสียหายทางตรงและทางอ้อม ในกรณีพิเศษ ที่เป็นผลของเหตุการณ์อื่น ที่เป็นข้อยกเว้น หรือเป็นบทลงโทษตามที่กฎหมายอนุญาต
ภายในขอบเขตที่กฎหมายอนุญาต ความรับผิดทั้งหมดของบริษัท และคู่ค้าและตัวแทนจำหน่ายของบริษัท สำหรับการเรียกร้องใดๆ ภายใต้ข้อกำหนดนี้ รวมถึงการรับประกันโดยนัยใดๆ จะต้องไม่เกินยอดเงินที่ผู้ใช้บริการได้จ่ายแก่บริษัทเพื่อใช้บริการ หรือเพื่อจัดหาบริการให้แก่ผู้ใช้บริการอีกครั้ง หากบริษัทได้เลือกดำเนินการเช่นนั้น
ในทุกกรณี บริษัท และคู่ค้า และตัวแทนจำหน่ายของบริษัท จะไม่รับผิดต่อการสูญเสียหรือความเสียหายที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้โดยเหตุผลอันควร
หน้าที่ในการแจ้งข้อมูล
ในกรณีที่ผู้ใช้บริการที่ใช้บัญชีผู้ใช้ที่ได้รับอนุมัติ ต้องการ เปลี่ยนชื่อ, ชื่อบริษัท, ชื่อทางการค้า, ตัวแทน, ที่อยู่หรือข้อมูลอื่นในการติดต่อ ผู้ใช้บริการจะต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้บริษัททราบเป็นลายลักษณ์อักษร ตามวิธีการแจ้งข้อมูลที่บริษัทกำหนด โดย บริษัทอาจขอให้ผู้ใช้บริการส่งเอกสารเพื่อยืนยันการเปลี่ยนแปลงข้อมูลดังกล่าว และผู้ใช้บริการต้องปฏิบัติตามคำร้องขอดังกล่าวของบริษัท
หน้าที่ของผู้ใช้บริการ
ในกรณีที่มีบุคคลอื่นใช้สิทธิเรียกร้องหรือมีข้อเรียกร้องต่อผู้ใช้บริการ หรือผู้ใช้บริการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีเกี่ยวกับหรือมีสาเหตุมาจากการใช้บริการไบต์อาร์ค ในกรณีที่ผู้ใช้บริการจะยุติข้อเรียกร้องด้วยค่าใช้จ่าย โดยถือว่าเป็นความรับผิดชอบของผู้ใช้บริการเอง และผู้ใช้บริการจะไม่ให้บริษัท เข้าไปเกี่ยวข้องในการยุติข้อเรียกร้องดังกล่าว
ในกรณีที่ บริษัทมีค่าเสียหายหรือค่าใช้จ่าย รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี เกี่ยวกับหรือมีสาเหตุมาจากการใช้บริการไบต์อาร์ค ของผู้ใช้บริการ ผู้ใช้บริการจะชดใช้ค่าเสียหายหรือค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้แก่ไบต์อาร์ค
หากผู้ใช้บริการได้กำหนดให้มีผู้ใช้บริการรายอื่นที่มีส่วนร่วมในการใช้งานบัญชีผู้ใช้บริการในฐานะใดๆ ก็ตาม ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “ผู้ใช้บริการร่วม” บริษัทจะถือว่าการปฏิบัติของผู้ใช้บริการร่วมคือการปฏิบัติของผู้ใช้บริการด้วยเช่นกัน หากการปฏิบัติของผู้ดูแลร่วมก่อให้เกิดความเสียหายหรือการเสียผลประโยชน์แก่ผู้ใช้บริการ บริษัทจะไม่รับผิดชอบใดๆ และขอให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาระหว่างผู้ใช้บริการและผู้ใช้บริการร่วม
การใช้บริการของเราในทางธุรกิจ
หากผู้ใช้บริการได้ใช้บริการของบริษัทในนามของธุรกิจ ธุรกิจนั้นจะต้องยอมรับข้อกำหนดเหล่านี้ ธุรกิจจะไม่เรียกร้องให้บริษัท บริษัทคู่ค้า บริษัทตัวแทนจำหน่าย เจ้าหน้าที่ ตัวแทน และพนักงานของบริษัทชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ใช้บริการ และผู้ใช้บริการจะไม่ฟ้องร้องคดีหรือดำเนินการใดๆ อันเกิดจากหรือเกี่ยวกับการใช้บริการหรือการละเมิดข้อกำหนดเหล่านี้ รวมถึงไม่ให้บุคคลดังกล่าวมีความรับผิดหรือต้องชำระค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกิดจากการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน การสูญเสีย ความเสียหาย การฟ้องร้องคดี การตัดสินคดี และค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี
เงื่อนไขการใช้งาน
การใช้บริการมีข้อห้าม มิให้ผู้ใช้บริการกระทำการใดๆ ดังต่อไปนี้
- การกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย คำพิพากษาศาล มติหรือคำสั่ง หรือมาตรการทางปกครองที่มีผลผูกพันตามกฎหมาย
- การกระทำอันเป็นการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้าและสิทธิบัตร สิทธิในชื่อเสียง สิทธิส่วนบุคคล และสิทธิอื่นใดของบริษัท และ/หรือบุคคลอื่นไม่ว่าจะได้รับตามกฎหมายหรือสัญญา
- การกระทำที่รบกวนการทำงานของเซิร์ฟเวอร์และ/หรือระบบเครือข่ายของบริษัท
- การกระทำที่ใช้หรือแสวงหาประโยชน์จากข้อบกพร่องของบริการโดยเจตนา
- การกระทำที่แทรกแซงการให้บริการหรือการใช้บริการของผู้ใช้บริการรายอื่นหรือบุคคลอื่น
- การกระทำอื่นใดที่บริษัทพิจารณาว่าไม่เหมาะสม
การระงับการใช้งานและการจัดการข้อมูลบัญชีผู้ใช้
การระงับการให้บริการของบริษัทมีด้วยกันสองสถานะ ดังต่อไปนี้
- การระงับการใช้งานชั่วคราว (Suspend) : เมื่อบัญชีผู้ใช้ของผู้ใช้บริการอยู่ในสถานะนี้ ผู้ใช้บริการจะไม่สามารถใช้บริการใดๆ ของทางบริษัทได้ ยกเว้น ระบบจัดการบัญชีผู้ใช้ (ByteArk Account)
- การระงับการใช้งานถาวร (Terminate) : เมื่อบัญชีผู้ใช้ของผู้ใช้บริการอยู่ในสถานะนี้ ผู้ใช้บริการจะไม่สามารถใช้บริการใดๆ ของทางบริษัทได้
บริษัทมีสิทธิ์ขาดในการระงับการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการ โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นการระงับการใช้งานโดยบุคคล หรือโดยระบบอัตโนมัติ หากเกิดเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งหรือหลายเหตุการณ์ต่อไปนี้
- ผู้ใช้บริการละเมิดข้อกำหนดตามเอกสารนี้
- ผู้ใช้บริการไม่ชำระค่าใช้บริการค้างชำระตามที่สัญญาได้ระบุไว้
- ผู้ใช้บริการมีจำนวนเครดิตคงเหลือในระบบน้อยกว่ายอดการใช้งานที่เกิดขึ้นภายในเดือนนั้น (Monthly Usage) โดยระบบของทางบริษัทจะแสดงให้เห็นแก่ผู้ใช้บริการ บนระบบจัดการบัญชีผู้ใช้
- ผู้ใช้บริการไม่มีการใช้งาน หรือเข้าถึงบัญชีผู้ใช้นานกว่า 1 ปี
- บริษัทได้รับคำสั่งจากหน่วยงานราชการให้ดำเนินการ (ดูเพิ่มเติมในหัวข้อ การปฏิเสธความรับผิดในบริการของเรา)
- บริษัทได้รับแจ้งว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์ จากเจ้าของลิขสิทธิ์หรือผู้แทนเจ้าของลิขสิทธิ์ของเนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วน และไม่ได้รับการแก้ไขจากผู้ใช้บริการ
บัญชีผู้ใช้ของผู้ใช้บริการที่ถูกระงับการใช้งาน สามารถกลับมาใช้งานได้อีกครั้งหากมีการดำเนินการแก้ไข ตามเงื่อนไขที่บริษัทได้แจ้งต่อผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ทางบริษัทของสงวนสิทธิ์ในการพิจารณายกเลิกการระงับการใช้งานให้แก่ผู้ใช้บริการบางราย โดยบริษัทไม่จำเป็นต้องชี้แจงเหตุผลให้ทราบ
การปรับเปลี่ยนและการยุติการให้บริการ
บริษัททำการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงบริการอย่างสม่ำเสมอ บริษัทอาจเพิ่มหรือนำระบบการทำงานหรือคุณลักษณะบางอย่างออกและบริษัทอาจระงับหรือหยุดให้บริการใดบริการหนึ่งโดยสิ้นเชิง โดยผู้ใช้บริการสามารถหยุดใช้บริการของบริษัทได้ทุกเมื่อ แม้ว่าบริษัทมิได้ต้องการให้ผู้ใช้บริการทำเช่นนั้น บริษัทอาจหยุดให้บริการแก่ผู้ใช้บริการ หรือเพิ่ม หรือสร้างขีดจำกัดใหม่ ๆ ในบริการของบริษัทได้ทุกเมื่อ
บริษัทเชื่อว่าผู้ใช้บริการเป็นเจ้าของข้อมูลและการสงวนไว้ซึ่งการเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวเป็นสิ่งสำคัญ หากบริษัทหยุดให้บริการในกรณีที่มีเหตุผลสมควร บริษัทจะส่งคำเตือนที่เหมาะสมถึงผู้ใช้บริการล่วงหน้า และให้โอกาสผู้ใช้บริการในการนำข้อมูลดังกล่าวออกจากบริการนั้นอย่างเหมาะสม
ผู้ใช้บริการสามารถยกเลิกบัญชีของตนได้หากแจ้งให้บริษัททราบเป็นลายลักษณ์อักษร โดยการจัดส่งเอกสารมายังบริษัท หรือทางอีเมล support@byteark.com ว่าประสงค์ที่จะดำเนินการดังกล่าว โดยไม่คำนึงถึงการยกเลิกดังกล่าว ผู้ใช้บริการยังคงต้องรับผิดชอบและรับผิดต่อธุรกรรมใด ๆ ก็ตามที่ยังทำไม่เสร็จสิ้น ไม่ว่าจะเริ่มก่อนหรือหลังการยกเลิกดังกล่าว เช่น ค่าใช้บริการคงค้างในเดือนสุดท้ายหลังจากทำการแจ้งยกเลิกบัญชี หรืออย่างอื่นที่คล้ายกัน และผู้ใช้บริการจะยังมีความผูกพันและสัญญาตามกฎหมายต่อบริษัท จนกว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่ติดค้างทั้งหมดที่มีต่อบริษัท
เกี่ยวกับการบังคับใช้ข้อกำหนด
ข้อกำหนดนี้จะกำกับดูแลความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้บริการกับบริษัท โดยจะไม่ให้สิทธิใด ๆ แก่ผู้รับผลประโยชน์ที่เป็นบุคคลที่สาม
หากปรากฏว่ามีข้อกำหนดใดที่ไม่สามารถบังคับใช้ได้ ข้อกำหนดดังกล่าวจะไม่ส่งผลต่อข้อกำหนดส่วนที่เหลือ
หากมีข้อขัดแย้งกันระหว่างข้อกำหนดนี้กับข้อกำหนดเพิ่มเติม ให้ถือว่าข้อกำหนดเพิ่มเติมมีผลบังคับใช้
หากผู้ใช้บริการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้ และบริษัทไม่ได้ดำเนินการใดโดยทันที จะไม่ถือว่าบริษัทสละสิทธิใด ๆ ที่มีตามข้อกำหนดนี้ เช่น การดำเนินการในภายหลัง